24 October 2006

วานนี้ (24 ต.ค.) นางธาริษา วัฒนเกส รักษาการผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยอมรับว่า ธปท.ได้เสนอให้ขึ้นเพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต จากร้อยละ 18 เป็นร้อยละ 20 จริง แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นคำสั่งของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าได้อนุมัติให้เพิ่มเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิต โดยเหตุผลที่เสนอให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากต้องการใช้หลักความต้องการบริโภค และราคาเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกหนี้บัตรเครดิตที่มีรายได้ต่ำ เพราะเมื่อ ธปท.ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น เชื่อว่าคนที่จะใช้สินเชื่อบัตรเครดิตจะต้องหยุดคิดและพิจารณามากขึ้นว่าจะสามารถรับภาระการผ่อนชำระได้หรือไม่

"ขณะนี้ หากมีการอนุมัติจากระทรวงการคลัง ถือเป็นการเพิ่มเพดานสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ไม่ใช่ว่าทุกแห่งจะขึ้นดอกเบี้ยไปอยู่ที่ร้อยละ 20 อยู่ที่การพิจารณาของผู้ประกอบการแต่ละรายว่าจะคิดอัตราดอกเบี้ยในอัตราใด แต่เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น คนที่จะกู้ก็ต้องหยุดคิดมากขึ้น ซึ่งตามหลักดีมานด์-ซัพพลาย เมื่อราคาสูงความต้องการใช้ก็จะลดลงด้วย" นางธาริษากล่าว

รักษาการผู้ว่าการ ธปท. กล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้ยอดการเพิ่มของบัตรเครดิต และการใช้จ่ายผ่านบัตรจะทยอยลดลงต่อเนื่องก็ตาม แต่หากพิจารณาโดยละเอียดจะเห็นว่าผู้ใช้บริการบัตรเครดิตที่มีรายได้ต่ำเป็นประเภทที่ยังมียอดการใช้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นมาก และเป็นประเภทที่พบการเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้น

No comments: